5/19/2560

จากนักศึกษาจบปริญญาตรี คณะบริหาร สู่การเป็นเกษตรกรรายได้หลักแสนต่อเดือน

จากนักศึกษาจบปริญญาตรี คณะบริหาร สู่การเป็นเกษตรกรรายได้หลักแสนต่อเดือน

วันนี้เราจะมาพูดถึงเรื่องราวของสาวคนหนึ่ง ซึ่งเธอจบปริญญาตรีคณะบริหาร หันมาทำอาชีพเสริมโดยการเป็นเกษตรกรเต็มตัว สร้างรายได้จากพื้นที่เพียง 4 ไร่ ในการปลูกผักหวานป่า สวนจันทร์คูณ จนในปัจจุบัน เธอสามารถสร้างรายได้ถึงหลักแสนบาทต่อเดือน

เรื่องราวของเธอ อาจช่วยให้คนรุ่นใหม่ เปลี่ยนแนวคิดและอาจเป็นแรงบันดาลใจให้กับใครหลายๆคน ซึ่งเรามาทำความรู้จักกับเธอเลยดีกว่า เธอคือคุณนันทวดี คันทรง หรือที่คุ้นหูของชาวบ้านแถวนั้นคือ น้องแอ  จบจากราชมงคลจักรพงษภูวนารถ คณะบริหาร ปัจจุบันทำงานที่ธนาคาร  ธกส. สาขา อ.บ้านหมอ จ.สระบุรี ฝ่ายสินเชื่อ โดยก่อนหน้านั้นเธอได้หันมาทำอาชีพเสริม หลังจากที่เรียนจบ เธอได้ตัดสินใจปลูกผักหวานป่าในพื้นที่ดินของพ่อ แม่ เพียง 4 ไร่ เพราะได้เล็งเห็นโอกาสในการปลูกต้นไม้ยืนต้น ที่สามารถสร้างรายได้ให้กับเธอในอนาคต และสามารถทำผลกำไร และได้รับผลผลิตทั้งปี


เธอได้ทุ่มเท ให้กับการทำสวนผักหวานป่า เป็นระยะเวลา 2 ปี จากการที่เธอได้ทำงาน ที่ธนาคารธกส ทำให้เธอได้ความรู้เกี่ยวกับวิถีชีวิตของเกษตรกร การได้พบปะ กับเกษตรกรมากมาย ทำให้เธอสามารถหาตลาดและกระจายสินค้า ได้ในอนาคต โดยปกติแล้ว การปลูกผักหวานป่าต้องใช้เวลา 4-5 ปี จึงจะสามารถ เก็บมาขายทำกำไรได้ หน้าที่ใช้วัดระยะเวลาเพียงแค่ 2 ปีครึ่งเท่านั้น ก็สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้แล้ว เพราะเธอคอยดูแลสวนผักหวาน เป็นพิเศษอยู่เสมอทั้งรดน้ำพรวนดินให้ปุ๋ยอินทรีย์อย่างต่อเนื่อง ทำให้สวนผักหวานป่าสร้างรายได้ให้เธอไม่ต่ำกว่า 20,000 บาทต่อเดือน



การปลูกต้นผักหวานป่านั้น เป็นพืชที่ปลูกยากและให้ผลผลิตยาก ต้องได้น้ำที่พอเหมาะได้แสงที่พอดี ยอดถึงจะแตกได้ตลอดทั้งปี  จึงต้องปลูกมะขามเทศเพื่อให้ร่มเงาห่างกันต่อต้นประมาณ 3 เมตร แล้วปลูกผักหวานไว้ตรงกลาง ต้องให้น้ำอาทิตย์ละครั้ง จึงต้องเดินท่อให้น้ำระบบสปริงเกอร์ ซึ่งเธอเองเป็นผู้หญิงที่ลงมาทำด้วยตัวเองโดยมีคุณตา คุณยายคอยช่วยเหลือ เป็นกำลังใจสำคัญ และการจ้างคนเข้ามาช่วยดูแลอีกทาง
และหลังจากที่คุณนันทวดีทำงานที่ ธกส. ได้ประมาณ 2 ปีครึ่ง เธอก็ตัดสินใจลาออกมาดูสวนผักหวานอย่างเต็มที่ และเป็นเกษตรกรอย่างเต็มตัว จนปัจจุบัน เธอสามารถสร้างรายได้ต่อเดือนได้ถึงหลักแสนบาทแล้ว โดยช่องทางในการขายของเธอ ส่วนมากจะผ่านทาง Facebook เป็นหลัก



ซึ่งปัจจุบันผักหวานป่าสวนจันทร์คูณสามารถแบ่งขายได้หลายส่วนด้วยกันคือ
1. ยอดผักหวานป่า ที่สามารถสร้างรายได้มากกว่า 20,000 บาท/เดือน
ราคาขายยอดอยู่ที่ 60-120 บาทแล้วแต่ฤดูกาลและราคาตามท้องตลาด
2. กิ่งตอนผักหวานป่า ซึ่งเป็นอีกส่วนที่สร้างรายได้ได้มากกว่ายอดคือ สามารถสร้างรายได้มากกว่า 40,000 บาท/เดือน
 ซึ่งราคาขายกิ่งก็จะแบ่งออกตามขนาดของกิ่งและราคาก็จะแตกต่างกันไป
เช่น กิ่งเล็ก 150 บาท, กิ่งกลาง 200 บาท, กิ่งใหญ่ 250 บาท เฉลี่ยรายได้ 200 บาท/กิ่ง
3. เมล็ดพันธุ์ ถุงละ 500บาท ขั้นต่ำ100เมล็ด



จากรายได้ต่อเดือนที่ได้จากการขายต้นผักหวานป่าของเธอ ถือได้ว่าเธอเป็นอีกหนึ่งคนรุ่นใหม่ที่มีความสามารถ และเป็นตัวอย่างที่ดีในการทำการเกษตร สามารถสร้างรายได้ให้กับตัวเองและครอบครัว แม้ว่าจะหักค่าใช้จ่ายไปแล้ว แต่เธอก็ยังได้รับรายได้ต่อเดือนไม่ต่ำกว่า 80,000 บาทเลยทีเดียว

        
        สำหรับคนยุคใหม่ ไม่ว่าจะทำงานอาชีพอะไรก็ตาม ขอแค่มีความขยัน อดทน มุ่งมั่นที่จะทำ ไม่มีใครที่จะไม่ประสบความสำเร็จ หรือแม้แต่การทำอาชีพเสริมเล็กๆในน้อยที่คุณรัก ก็อาจสามารถสร้างรายได้ให้คุณ จากรายได้เงินเดือนประจำไม่กี่หมื่นบาทต่อเดือน ขยับขึ้นมากลายเป็นหลายแสนบาทต่อเดือนเหมือนคุณนันทวดี ได้เช่นกัน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น